บริเวณที่พบ : หน้าศาลาข้างอาคารวัฒนา
ลักษณะพิเศษของพืช : ไม้ดอกประดับ ดอกสีชมพู
ลักษณะทั่วไป : ไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม
ต้น : โคนต้นเป็นพูพอนสูง เปลือกต้นเรียบเป็นมันสีเทาหรือสีเทาอ่อนอมขาว มีแผลเป็นหลุมตื้นๆตลอดลำต้น
ใบ : ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปใบหอก กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 12-20 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบรูปลิ่ม
ชอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบหนา ใบเเก่เกลี้ยง ใบอ่อนสีชมพูหรือแดง มีขนสั้น
ต้น : เป็นไม้ยืนต้นใหญ่สูง 15 30 เมตร โคนต้นเป็นพูพอนสูง ผิวเปลือกเป็นมันสีเทาหรือออกขาว มีรอยแผลเป็นหลุมตื้น
ดอก : สีชมพูอ่อนหรือม่วงอ่อน ออกเป็นช่อแบบช่อเเยกแขนงตามซอกใบปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 30-40 เซนติเมตร ก้านช่อดอก
และดอกตูมมีขนสีน้ำตาลอ่อนปกคลุม กลีบเลี้ยงมี 10-12 สัน ปลายแยก 5-6 กลีบ มีขนสีน้ำตาลด้านนอกและปลายกลีบด้านใน
กลีบดอก 6 กลีบ ดอกบานเต็มที่กว้าง 2.5-3.5 เซนติเมตร
ผล : ผลแห้งแตก รูปไข่สีน้ำตาล เเตกเป็น 5-6 พู เมล็ดแบน สีน้ำตาล มีปีก
ประโยชน์ : แก้ปวดกล้ามเนื้อเมื่อมีไข้ แก้บิด แก้ไข้อติสาร แก้ท้องร่วง แก้ถูกยาพิษ ขับโลหิตระดูสตรี
ข้อมูลจากภูมิปัญญาไทย : เนื้อไม้ ใช้ทำเสากระดานพื้น เครื่องมือกสิกรรม